[OS] My Brother | BNior BNyong










- My Brother -






บางครั้งความรักก็มักจะเล่นตลก มันมักจะมาในรูปแบบที่ต่างกันออกไปและในบางครั้งมันก็เกิดขึ้นในแบบที่ไม่สมควร เพราะความรักนั้นมีหลากหลายและสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนแต่ก็อยู่ที่ว่าจะเป็นความรักรูปแบบไหน แต่ก็มีไม่น้อยเหมือนกันที่มันเกิดขึ้นในรูปแบบของความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม การแสดงออกทางความรักที่ดูจะไม่สมควรแต่กลับไม่เคยห้ามมันได้ราวกับว่าต้องมนต์...



ผิวเนื้อที่เสียดสีกันร้อนรุ่มราวกับไฟ ริมฝีปากที่บดเบียดคลึงเคล้าไม่ยอมละออกจากกัน ลมหายใจที่สอดประสานไปพร้อมกับร่างกายที่โยกคลอนไปตามจังหวะ แรงกระแทกกระทั้นที่ถี่และหนักหน่วงตามอารมณ์ที่พุ่งทะยาน ปลดปล่อยออกมาพร้อมกันอย่างไม่มีใครคิดจะชิงสำเร็จเสร็จสมไปก่อน โอบกอดกันไว้ราวกับจะหลอมหลวมเป็นหนึ่งเดียว กระซิบถ้อยคำบอกรักแสนหวานต่อกันด้วยความรู้สึกที่แท้จริงในใจอย่างที่มักจะทำทุกครั้งในขณะที่กำลังทำรักกันหรือในตอนที่เสร็จสิ้นไปแล้ว



มันก็คงจะเป็นเรื่องปกติสำหรับคู่รักที่จะมีกิจกรรมบนเตียงแบบนี้ หากแต่ว่าสองคนที่ยังคงนอนกกกอดกันอยู่บนเตียงนั้นไม่ใช่คู่รักทั่วๆไปอย่างที่คิด ไม่ใช่คนที่กำลังเดทกัน ไม่ใช่คู่ที่แต่งงานกันเป็นสามีภรรยา



แต่ทว่าสองคนที่เพิ่งใช้ร่างกายแสดงความรักต่อกันไปเมื่อครู่นี้...เขาเป็นพี่น้องกัน







ร่างบางหอบหายใจหนักด้วยความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมที่เพิ่งจบลงไป ดวงตากลมนั้นยังคงหลับพริ้มไม่เปิดขึ้นมามองคนที่กำลังพรมจูบไปทั่วใบหน้าของตน สัมผัสชื้นเหงื่อจากฝ่ามือหนานั้นลูบศีรษะของเขาเบาๆราวกับว่าอยากจะปลอบโยนก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะกดจูบลงที่หน้าผากของเขา



" เจ็บมากไหม ขอโทษนะ "



เสียงทุ้มกระซิบถามก่อนจะค่อยๆถอนตัวตนออกจากกายบาง ดวงตาเรียวรีคู่นั้นมองจ้องเพียงใบหน้าที่ดูเหนื่อยล้าของอีกคนที่กำลังปรือตาขึ้นมามองเขาอย่างยากลำบาก นึกโทษโกรธตัวเองเหมือนกันที่ดันกระทำรุนแรงตามใจลืมถนอมคนที่รักสุดหัวใจ...รักในแบบที่ไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งนั้น



" เจ็บ...แต่ถ้าจูบแล้วจะหาย "



น้ำเสียงออดอ้อนของคนที่นอนอยู่เรียกรอยยิ้มจากคนตัวโตได้ไม่ยาก เขาทำตามคำเรียกร้องนั่นทันทีโดยไม่ต้องคิดนาน มอบจูบแสนหวานให้ไปก่อนที่จะช้อนตัวอุ้มเด็กหนุ่มรูปร่างแบบบางขึ้นมาในท่าเจ้าสาวทั้งที่ร่างกายของทั้งสองนั้นยังเปลือยเปล่า




" ไปล้างเนื้อล้างตัวก่อนเถอะ เดี๋ยวแม่จะมาแล้วนะ "



ค่อยๆวางร่างคนที่อายุน้อยกว่าลงที่พื้นห้องน้ำโดยไม่ลืมที่จะจับประคองให้ยืนได้ถนัด แต่ยังไม่ทันจะทำอะไรคนตัวเล็กกว่าก็จัดการเปิดน้ำจากฝักบัวแล้วหันมันมาทางเขาจนตัวเปียกปอน



" เนี่ย พี่ตัวเปียกๆแบบนี้เซ็กซี่จะตาย "



เสียงหวานๆนั้นฟังดูหยอกเย้าก่อนที่มือเรียวจะจับลงที่แท่งเนื้อของคนตัวโตกว่า มันยังคงแข็งตัวอยู่แม้ว่าจะเสร็จกิจบนเตียงไปแล้ว เขาย่อตัวลงคุกเข่าโดยที่ฝ่ามือยังคงรูดรั้งความแข็งขืนนั้นไว้ ช้อนสายตาขึ้นมองคนที่ยืนขบกรามแน่นแล้วมองเขาไม่วางตา



" ไหนบอกว่าเจ็บไง ลุกขึ้นมาเถอะน่า "


" ยังไม่อิ่มเลยนี่นา...ไหนๆก็จะต้องล้างตัวอยู่แล้วก็ขออีกสักครั้งไม่ได้เหรอ "


" เดี๋ยวแม่ก็มาแล้วนะ "


" ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรีบทำเลย "



พูดจบก็รับเอาความเป็นชายนั้นเข้าไปในโพรงปาก ห่อหุ้มรูดรั้งไปพร้อมกับฝ่ามือที่ยังคลึงลูกกลมๆสองลูกนั้นอยู่ เสียงซี๊ดปากของคนที่ยืนพิงผนังห้องน้ำดังขึ้นก่อนที่ฝ่ามือจะขยุ้มกลุ่มผมที่เปียกชื้นเพราะน้ำจากฝักบัวยังคงไหลลงมาเป็นสาย ดวงตากลมฉ่ำน้ำช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าของอีกคนอย่างเย้ายวน และอาจจะเพราะแบบนั้นความยั่วยวนของเขาถึงถูกตอบสนองด้วยการที่ถูกดึงให้ลุกขึ้นยืน




" ทำไมชอบยั่ว "


" แล้วทำไมพี่ถึงยอมให้ผมยั่วง่ายๆแบบนี้ล่ะ "


" หึ แล้วอย่ามาบ่นว่าเจ็บนะ "



พูดจบก็จับร่างบางพลิกตัวหันหน้าเข้าหาผนังห้องน้ำ สองมือจับเอวบางดึงรั้งให้แอ่นสะโพกมาทางตนและแน่นอนว่าอีกคนนั้นรู้งาน เลื่อนฝ่ามือบีบขยำแก้มก้นขาวที่นุ่มนิ่มเต็มมือพร้อมกับริมฝีปากที่กดจูบลาดไหล่ของอีกคน ร่างกายของพวกเขาเปียกปอนแต่กลับดูร้อนรุ่มมากกว่า





" อ..อื้อ.. "



เสียงครางอือดังขึ้นทันทีเมื่อคนตัวโตจับเอาแท่งเนื้อที่ขยายตัวใหญ่เต็มที่แทรกเข้าไปที่ช่องทางสีอ่อน แม้มันจะเข้าได้สะดวกกว่าครั้งแรกแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความเสียวซ่านนั้นลดลงแม้แต่น้อย สะโพกสอบขยับส่งความใหญ่โตนั้นเข้าไปช้าๆพลางผ่อนลมหายใจไปด้วย สองมือบีบขยำความนุ่มนิ่มนั่นจนน่ากลัวว่าจะฝากรอยมือเอาไว้



" ล..ลึก...มันลึกอ่า "


" อือ ไม่ดีหรือไง "


" ทำเลยสิ..เร็วๆเดี๋ยวแม่ก็มาแล้วนะ "



ได้ยินแบบนั้นก็จัดการขยับกายทันทีอย่างหนักหน่วงรุนแรง สายตาคมนั้นมองจ้องเพียงใบหน้าด้านข้างที่แนบอยู่กับผนังห้องน้ำ เสียงหนันเนื้อที่กระทบกันผสมปนเปไปกับเสียงน้ำจากฝักบัวที่ยังคงไหลชะโลมกายของทั้งสองดังก้องไปทั่วห้องน้ำแข่งกับเสียงครวญครางปานจะขาดใจของคนที่รองรับการกระทำที่ดุดันรุนแรง



ความรุนแรงนั้นไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย ร่างสูงยังคงโถมกระแทกกายเข้าใส่ร่างบางอย่างหนักหน่วงและถี่รัว เสียงครางหวานๆนั้นยิ่งมีแต่จะทำให้เขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆไม่ยอมหยุด...จนกระทั่งได้ยินเสียงประตูรั้วของบ้านถูกเลื่อนเปิดออกนั่นเอง




" แม่มาแล้ว...อ๊ะๆๆ "


" ชู่ว! "



ฝ่ามือหนาเลื่อนไปปิดปากอีกคนที่ร้องครวญครางเสียงดังเอาไว้ก่อนที่จะกระแทกกายถี่รัวและหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆโดยไม่ลืมที่จะคอยฟังเสียงของบุคคลที่เพิ่งกลับมาถึงบ้าน หัวใจเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกชื่อของพวกเขาทั้งสองคน ดวงตาเรียวรีเบนกลับมามองคนที่ยังคงถูกเขาปิดปากอยู่ ดวงตาคู่นั้นปิดปี๋ สองมือกำแน่นทุบผนังห้องน้ำเบาๆเมื่อเขายังคงกระแทกกายรุนแรง หนันเนื้อสะโพกที่กระเพื่อมตามแรง...ทั้งหมดนั้นทำให้เขาต้องรีบเร่งให้เร็วขึ้นก่อนที่จะปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง




" เดี๋ยวพี่จะไปเปิดประตูเอง นายอยู่ในนี้ก่อนนะ "



ว่าแล้วก็คว้าผ้าขนหนูมาเช็ดตัวแบบลวกๆแล้วเดินออกจากห้องน้ำไป ร่างบางทรุดกายลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง ก็คงเหมือนอย่างทุกทีที่อีกคนจะออกไปรับหน้าแทนเพราะรู้ว่าเขาคงออกไปเองไม่ไหว ข้ออ้างหลักๆที่ทำให้อีกคนมาอยู่ในห้องของเขาก็คงไม่พ้นการมาเล่นเกมส์



ก็เหมือนอย่างทุกครั้งที่ทำมาตลอดสองปีและไม่เคยถูกจับได้เลยสักครั้ง...

















" แม่คร้าบบบ "



เสียงเรียกของลูกชายคนเล็กดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงจะเข้ามาสวมกอดผู้เป็นแม่เอาไว้อย่างออดอ้อนเหมือนทุกที เห็นแบบนั้นผู้เป็นแม่อย่างเธอก็อดที่จะยิ้มไม่ได้



" มาอ้อนแบบนี้จะเอาอะไรเนี่ย "


" หิวแล้วอ่า "


" ไปนั่งรอกับพี่แจบอมเขาก่อนสิ "


" กอดแม่ก่อนไม่ได้เหรอ "


" จินยอง โตแล้วนะทำเป็นเด็กๆไปได้ "



จินยอง หรือ อิมจินยอง หัวเราะเบาๆก่อนจะยอมเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวตรงข้ามกับ แจบอม หรือ อิมแจบอม ผู้ที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายและเกิดก่อนเขาสี่ปี...คนเดียวกันกับคนที่ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียจนอยากจะหลับมันเสียตรงนี้ ดวงตาเรียวรีคู่นั้นเหลือบมองเขาแว๊บหนึ่งก่อนที่เจ้าของจะหลุบตาลงมองโทรศัพท์มือถือที่คงจะแชทกับใครบางคนอยู่เพราะนิ้วมือที่แตะลงพิมพ์ข้อความอยู่เรื่อยๆ แต่ทว่าฝ่าเท้าที่ที่ถูกห่อหุ้มด้วยสลิปเปอร์นั้นกลับยื่นมาแตะที่ขาของเขาเบาๆ



จินยองอมยิ้มก่อนที่จะแกล้งถีบขาของแจบอมแรงๆจนอีกฝ่ายหลุดเสียงร้องออกมาแล้วถลึงตาใส่เขาด้วยทีท่าไม่จริงจัง สิ่งที่จินยองทำคือการแลบลิ้นใส่อย่างกวนประสาทก่อนที่จะยอมนิ่งเมื่อรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นที่มุมปากของคนเป็นพี่ชาย...




มันผิดและทั้งคู่รู้ดี กับความสัมพันธ์ทางกายและทางใจที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับคนที่เป็นพี่น้องกัน มันผิดบาปเหลือเกินกับศีลธรรมอันดี...แต่ทว่าพวกเขากลับไม่เคยหักห้ามใจตัวเองได้เมื่อใกล้กัน ครั้งแรกเกิดขึ้นจากความเมาของทั้งคู่เมื่อสองปีก่อน...แต่ครั้งต่อๆมามันเกิดขึ้นเพราะความรู้สึกที่มีต่อกันล้วนๆไม่ใช่ความมึนเมาอีกต่อไปเพราะทุกครั้งทั้งคู่ก็มีสติเต็มร้อย



กับความรักที่มากเกินกว่าคำว่าพี่น้อง กับการกระทำที่ดูแล้วไม่สมควรเกิด...มันจะเป็นความลับได้อีกนานสักแค่ไหน และความสัมพันธ์แบบนี้มันจะเป็นอย่างไรต่อไป...ทั้งสองยังไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นเลย





" แจบอม เดี๋ยวอีกสามวันแม่จะต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัดนะ "



แจบอมเงยหน้ามองแม่ของตนในขณะที่กำลังตักข้าวในจานเข้าปาก มันเป็นเรื่องปกติที่แม่ของเขามักจะต้องมีเรื่องให้เดินทางไปต่างจังหวัดอยู่บ่อยครั้ง...แล้วนั่นมันก็ทำให้เขารู้สึกว่าการหักห้ามใจมันดูจะยากกว่าเดิม



" ตอนแม่ไม่อยู่ก็ดูแลน้องด้วยนะ "


" จินยองโตแล้วนะแม่ ให้ดูแลตัวเองไปเถอะ "


" ทำไมพูดแบบนั้นล่ะลูก ไม่รักน้องหรือไง "


" รักสิครับ ไม่รักน้องจะให้ไปรักใคร "



กับสายตานั้นจินยองได้แต่เบ้ปากแล้วก้มหน้าหลบสายตาไป ทำไมจะไม่รู้ว่าความหมายของคำว่ารักของแจบอมมันเป็นแบบไหน



" แล้วจินยองก็อย่าดื้อกับพี่แจบอมนะ เหลือกันอยู่แค่นี้แล้วก็รักกันให้มากๆล่ะ "


" แม่อ่า พูดแบบนี้แทบทุกวันเลยไม่เบื่อเหรอครับ "


" ไม่เบื่อหรอก แค่อยากจะย้ำให้จำกันเอาไว้แค่นั้นเอง "



จินยองพยักหน้าเบาๆโดยที่ยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ลึกๆแล้วทั้งตัวเขาและแจบอมต่างก็รู้สึกผิดกับผู้เป็นแม่อยู่พอสมควรเหมือนกัน หากเลือกได้ก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น...แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อความรักที่เกิดขึ้นมันไม่อาจลบลืมไปได้ง่ายๆ ความรักที่มากเกินกว่าพี่น้องที่ไม่รู้ว่ามันก่อตัวขึ้นมาในใจตั้งแต่เมื่อไหร่แต่มารู้ตัวอีกทีมันก็ล้นเอ่อ



ทั้งสองต่างก็รู้และเข้าใจกันและกัน...


แต่มันจะมีใครอีกไหมที่จะเข้าใจพวกเขา...
















Ring!!


เสียงแจ้งเตือนจากโปรแกรมแชทดังขึ้นเรียกให้คนนอนดึกต้องละความสนใจจากหน้าจอทีวีไปมอง ชื่อของคนที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นที่หน้า แจบอมไม่รอช้าที่จะเปิดอ่านข้อความที่ถูกส่งมาก่อนที่จะหัวเราะเบาๆกับคำชวนที่พวกเขาสองคนต่างก็รู้กันดี



Jinyoung : นอนรึยัง มาเล่นเกมส์กันป่ะ?

Jaebeom : หึ นึกอะไรอยู่มาชวนเล่นเกมส์คืนนี้ แม่อยู่บ้านนะ

Jinyoung : ไม่รู้สิ...แต่ผมไม่ได้ล็อคประตูอ่ะ

Jaebeom : หัดล็อคบ้างเถอะ ไม่กลัวอะไรเลยเหรอ

Jinyoung : มีอะไรต้องกลัวด้วยเหรอ



แจบอมกระตุกยิ้มมุมปากเพราะพอจะจินตนาการได้ถึงสีหน้าของคนเป็นน้องชายได้กับประโยคเมื่อครู่ ทำไมจะไม่รู้ว่าการที่จินยองไม่ล็อคประตูมันเป็นเพราะอะไร...ก็เพราะว่าเป็นเขาเองที่มักจะชอบแอบย่องเข้าไปแกล้งจินยองกลางดึก ตลกดีเหมือนกันที่จินยองไม่คิดจะค้านอะไรแถมยังเต็มใจให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีโดยการไม่ล็อคประตูห้องนอนของตัวเอง และยังมาทำให้ความหมายของการชวนเล่นเกมส์นั้นเปลี่ยนไปอีกต่างหาก...เพราะการเล่นเกมส์ที่ว่านั่นมันเป็นเกมส์บนเตียง



ริมฝีปากหยักเหยียดยิ้มเมื่ออีกฝ่ายส่งรูปที่คิดว่าคงจะเพิ่งถ่ายมาให้ เขามองขาอ่อนขาวๆที่ชายเสื้อสีขาวนั้นคลุมได้ไม่มิดชิด ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้สวมใส่กางเกงเอาไว้...และตอนนี้ก็คงจะกำลังต้องการเขาเช่นกัน



Jaebeom : ยั่วนักก็เตรียมตัวไว้เลยนะตัวแสบ























" อะไรนะ!!? แม่มึงจะไม่อยู่บ้านเหรอ!!? "



เสียงตะโกนของเพื่อนซี้ทำเอาแจบอมต้องถีบเข้าที่ลำตัวของเจ้าตัวอย่างแรง โดยไม่ได้สนใจว่าเพื่อนของจนจะกระเด็นไปไกลขนาดไหน



" สมน้ำหน้า จะแหกปากหาพ่อมึงเหรอ "


" พ่อกูอยู่อเมริกา ให้ท่านอยู่สะดวกๆเถอะแบมอย่าเอามาเล่นที่นี่เลยมันไกล "



แจบอมมองเพื่อนซี้ทั้งสองคนที่เถียงกันก่อนจะส่ายหน้าเบาๆแล้วนั่งลงที่ม้านั่งตัวยาวในมหาวิทยาลัย เขาหันไปมองมาร์คและแบมที่กำลังนั่งต่อปากต่อคำกันอย่างเอาเป็นเอาตายก่อนจะตัดสินใจสงบศึกโดยการยื่นขาไปกั้นกลางระหว่างคนทั้งสอง




" โธ่!! ไอ้นี่ก็เล่นตีน "



แบมว่าก่อนจะผลักขาแจบอมออกไปพร้อมกันกับที่มาร์คกลอกตาถอนหายใจ พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทของแจบอมที่รับรู้เรื่องความรักที่มากเกินกว่าพี่น้องที่แจบอมมีให้จินยอง...แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือความสัมพันธ์ที่มันถลำลึกไปแล้ว



" แล้วยังไงวะเนี่ย แม่ไม่อยู่บ้านแบบนี้มึงก็...อยู่บ้านกับน้องจินยองแค่สองคนสิวะ "


" ม่านศีลธรรมจะต้องขาดวิ่น!!! "


" พี่น้องหนอ "


" ซี๊ดซ๊าดหนอ "



คำพูดกวนประสาทของเพื่อนทั้งสองทำเอาแจบอมต้องหัวเราะออกมา ก็เป็นมันแบบนี้ทุกครั้งเพราะเพื่อนของเขาไม่ได้รู้เรื่องลึกกว่านี้ก็เลยมักจะกวนประสาทกันโดยการยุแยงให้เขาฉีกความผิดชอบชั่วดีแล้วจัดการน้องชายของตัวเองซะ แน่นอน...ไอ้ม่านศีลธรรมที่แบมว่ามันจะต้องขาดวิ่นนั่นแจบอมฉีกทึ้งมันจนขาดแบบไม่มีชิ้นดีแล้ว



" เอาจริงๆนะเว้ย คือมึงรักจินยองในแบบที่ไม่ใช่พี่ชายรักน้องชายแบบนี้มึงไม่กลัวอนาคตเหรอวะ วันนึงน้องมึงก็ต้องโตกว่านี้เจอผู้คนมากมายกว่านี้อ่ะ ถ้าวันนั้นน้องมึงมีแฟนขึ้นมาจะทำไงวะ ทำใจได้เหรอ "



แบมเอ่ยถามขึ้นก่อนจะกระดกกระป๋องน้ำอัดลมในมือ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะชอบยุแยงให้แจบอมทำเรื่องผิดศีลธรรมขนาดไหนแต่ลึกๆแล้วก็เป็นห่วงเพื่อนอยู่เสมอ



" ไม่รู้ว่ะ กูยังไม่เคยคิดเรื่องนั้น "


" แต่กูว่าคิดไว้บ้างก็ดีนะเว้ย ต่อให้มึงรักน้องจินยองมากขนาดไหนแต่กับคนที่เป็นพี่น้องกันใครจะไปยอมรับวะ มึงต้องจัดการตรงนี้ด้วยนะอย่าลืม "



แจบอมพยักหน้าเบาๆตามคำพูดของมาร์ค มันก็จริงที่เขาต้องเผื่อใจตรงส่วนนี้ ที่ผ่านมาตลอดสองปีที่ความสัมพันธ์ถลำลึกนั้นแจบอมลุ่มหลงและหลงใหลไปกับเรื่องของความวาบหวามและความรักที่มันผิดจนบางครั้งก็ลืมนึกถึงความเป็นจริง



แต่ตอนนี้แจบอมยังไม่อยากนึกถึงให้มันน่าปวดหัว เขาอยากจะขอกอบโกยความสุขเอาไว้ก่อน...




" เออขอบใจที่เตือน กูไปรับจินยองก่อนนะ "



ว่าแล้วก็เดินหนีไปทันทีปล่อยให้เพื่อนทั้งสองมองตามพร้อมกับถอนหายใจ เป็นเพื่อนกันมาก็หลายปีทำไมจะไม่รู้ว่าตอนนี้แจบอมก็คงจะรู้สึกคิดหนักเหมือนกันกับเรื่องพวกนี้ พวกเขาเข้าใจและไม่เคยว่าเรื่องที่แจบอมรักจินยองมากกว่าน้องชายทั้งที่ทั้งสองคนนั้นเป็นพี่น้องกันแท้ๆพ่อแม่เดียวกัน



อาจเพราะความรักมันหลากหลายมากกว่าคิด...ถึงแม้ว่ามันจะผิดแต่ก็ใช่ว่าจะห้ามใจกันได้ง่ายๆ





" สงสารแจบอมมันเหมือนกันเนอะ มีความรักทั้งทีแม่งก็เสือกไปรักน้องชายตัวเอง แล้วอนาคตแม่งจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ มึงว่ามันจะเลิกรักจินยองได้ป่ะวะแบมในเมื่อแม่งก็อยู่ด้วยกันทุกวันอ่ะ "



มาร์คว่าก่อนจะหันไปมองแบมที่นั่งดื่มน้ำอัดลมอยู่ แต่คำตอบที่ได้รับกลับมานั้นทำเอาความพยายามมีสาระของเขาต้องพังทลายลงในพริบตา



" ไม่ต้องไปเสือกเรื่องนั้นหรอก ตัวมันใจมันอ่ะยังไงมันก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ ไปแดกข้าวดีกว่า "



แบมถอนหายใจเบาๆก่อนจะมองมาร์คที่เบะปากท่าทางน่าตบ แขนข้างหนึ่งของเขาถูกมาร์คกอดเอาไว้พร้อมกับทำตาปริบๆดูแล้วก็ยิ่งน่ากระทืบ



" ตาเป็นห่าอะไร "


" หิวข้าวเหมือนกัน เลี้ยงข้าวกูหน่อยดิแบม "



เป็นอีกครั้งที่แบมต้องถอนหายใจก่อนจะสะบัดแขนสุดแรงจนหลุดจากการเกาะราวกับปลิงของมาร์ค เขาลุกขึ้นยืนจ้องหน้ามาร์คแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย...แต่ท้ายประโยคนั้นกลับทะเล้น



" หาแดกเองเลยเพื่อน แล้วทีหลังก็อย่ามาเกาะแกะกูมากนะ...รังเกียจอ่ะ ว้ายยยย!!! "



แล้วแบมก็วิ่งจากไปทิ้งให้มาร์คนั่งกรี๊ดกระทืบเท้าเหมือนคนโดนแฟนทิ้งอยู่ที่เดิมโดยมีสายตาของนักศึกษาคนอื่นๆมองเหมือนเห็นตัวประหลาด...



















" อะไรนะ!? แบบนี้ก็เข้าทางเลยสิ!! "


" บ้า!! เบาๆสิยองแจ "



จินยองว่าพร้อมกับฟาดฝ่ามือลงที่ต้นแขนของยองแจเพื่อนในกลุ่ม พอเขาบอกว่าแม่จะไม่อยู่บ้านพวกเพื่อนๆก็ทำตาโตกันใหญ่ ก็คงไม่แปลกอะไรเพราะเพื่อนๆในกลุ่มที่สนิทด้วยต่างก็รู้เรื่องในความรู้สึกที่เขามีต่อแจบอมผู้เป็นพี่ชาย...แต่ก็รู้กันแค่นั้นเพราะเรื่องความสัมพันธ์ที่ถลำลึกมันยังคงเป็นความลับที่รู้กันแค่สองคนเท่านั้น



" เอาจริงๆนะ กับการที่แกไม่ชอบล็อคประตูห้องนอนนี่ก็เหมือนอ่อยพี่แจบอมป่ะ "


" ยองแจพูดถูก เราก็งงอ่ะว่าพี่แจบอมห้ามใจอยู่ได้ยังไง "


" แกก็ถามแปลกๆอ่ะยูคยอม ก็เป็นพี่น้องกันนี่นาจะทำอะไรมากกว่านี้ได้ยังไงอ่ะ "



จินยองหัวเราะเบาๆเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนๆทั้งสามคนอย่าง ยองแจ ยูคยอม และแจ็คสันพูดมา แม้ว่าในหลายๆครั้งเพื่อนๆของเขาจะชอบมายุแยงให้มีความสัมพันธ์เกินเลยกับพี่ชายแต่จินยองเองก็รู้ว่ามันเป็นแค่การแซวกันเล่น เพื่อนๆทุกคนต่างก็เป็นห่วงเขาโดยเฉพาะความรู้สึกที่มันไม่ควรเกิดขึ้นของเขา




" นี่เดี๋ยวพี่แจบอมมารับใช่ป่ะ "


" อื้ม แล้วเดี๋ยวพวกแกไปไหนกันต่อป่ะ "


" ไปๆ เดี๋ยวว่าจะไปกินข้าวกันอ่ะ "



แจ็คสันว่าก่อนจะหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มกับยองแจและยูคยอม จินยองเลิกคิ้วขึ้นเชิงตั้งคำถามก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของยองแจและยูคยอม



" ที่จริงเราก็อยากชวนแกไปด้วยนะจินยอง แต่ว่ามัน...มันทำไมนะ ยูคยอมช่วยพูดแทนหน่อยดิ "


" แต่ว่าจินยองของเราจะต้องไปกินกับพี่ชายอ่า "


" เดี๋ยวๆๆ กินอะไรๆๆ "


" กินข้าวไง กินข้าวๆๆ "



กับคำพูดที่ฟังดูคงไม่ได้อยากสื่อความหมายไปแบบนั้นจริงๆก็เป็นเรื่องปกติที่จินยองเจอบ่อยๆ แต่แล้วรถยนต์คันสีดำที่กำลังขับเข้ามาทางพวกเขาก็ทำให้ทุกคนเงียบเสียงลงทันที



" อยากมีพี่ชายมารับแบบนี้บ้างอ่ะยองแจ!! "


" ทำใจนะยูคยอม ถึงเราจะมีพี่ชายแต่ก็ไม่ได้มาสนใจเรามากขนาดนี้หรอก "


" อย่าบ่นน่า ถึงพวกแกสองคนจะไม่มีพี่ชายคอยมารับแต่แทบทุกวันคนที่ไปส่งก็คือเราไม่ใช่เหรอวะ "



แจ็คสันผู้ที่รับหน้าที่เป็นคนขับรถแทบทุกครั้งกลั้วหัวเราะพร้อมกับควงพวงกุญแจในมือเล่น จินยองหยิบเอาหนังสือและกระเป๋าของตนก่อนจะลุกขึ้นโบกมือลาเพื่อนๆแล้วจึงเปิดประตูขึ้นรถไป เพื่อนทั้งสามก็ได้แต่ยืนมองตามก่อนจะพากันถอนหายใจออกมา



" บางทีก็เป็นห่วงมันว่ะแก มันมีความรักก็ดีแต่ทำไมต้องมาเกิดกับคนที่เป็นพี่ชายอ่ะ "



แจ็คสันว่าก่อนจะเกยคางไว้บนไหล่ของยองแจ เช่นเดียวกับยองแจที่ยืนกอดแขนยูคยอมอยู่ด้วยสีหน้าที่ดูเป็นกังวลอยู่พอสมควร



" ทำไงได้ ความรักมันไม่เลือกเวลาเกิดนี่หว่า จินยองมันรักไปแล้วอ่ะพวกเราก็คงทำได้แค่คอยให้คำปรึกษาคอยช่วยเหลือมันแบบนี้นี่แหละ "


" เฮ้อ...เอาเถอะ แต่อย่าลืมนัดวันหยุดนี้นะเว้ย แจ็คสันมันก็จองโต๊ะแล้วหวังว่าจินยองมันคงไม่เบี้ยว "



ยูคยอมว่าก่อนจะหันไปมองหน้าแจ็คสันแล้วพากันเดินไปที่ลานจอดรถ วันหยุดที่นัดกันไว้มันคือการไปดื่มฉลองเนื่องในวันเกิด(อยากดื่ม)ของยูคยอมเอง มันไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขานัดกันไปดื่มแต่ในหลายๆครั้งจินยองก็มักจะเบี้ยวนัดโดยให้เหตุผลว่าแจบอมไม่ให้ไป



พวกเขาก็หวังว่าครั้งนี้จะไม่โดนเบี้ยวนัดอีกเพราะอยากไปเที่ยวกับเพื่อนให้ครบคนบ้าง...




































" จินยอง แกไหวป่ะเนี่ย "



ยูคยอมเอ่ยถามเพื่อนของตนที่นั่งเบะปากคว่ำอยู่ข้างๆก่อนจะหันไปมองดูว่าใกล้ถึงบ้านของเจ้าตัวหรือยัง



แม้ว่าในค่ำคืนนี้จินยองจะไม่เบี้ยวนัดเรื่องไปดื่มกันก็จริงแต่เจ้าตัวกลับดื่มหนักจนเมาเละเสียอย่างนั้น ในกลุ่มตอนนี้ก็เห็นจะมีแต่ยูคยอมกับแจ็คสันเท่านั้นที่ยังมีสติ ยูคยอมเองก็ไม่ได้เมาอะไรมากมายส่วนแจ็คสันนั้นไม่ดื่มเลยเพราะต้องขับรถ มีแค่สองคนที่เมาหนักแล้วกอดคอแหกปากกันเสียงดังจนรีบเช็คบิลแล้วลากกลับบ้านทันที คนหนึ่งนั่งคอพับอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ ส่วนอีกคนก็หลับตาเบะปากอยู่ข้างยูคยอมนี่เอง...





" แจ็คสัน แกโทรบอกพี่แจบอมหรือยังอ่ะ "


" บอกแล้ว พี่เขาบอกจะลงมารอหน้าบ้าน...นั่นไง ยืนอยู่นั่นอ่ะ "



แจ็คสันว่าพร้อมกับชี้นิ้วไปที่บ้านหลังหนึ่งที่มีชายหนุ่มตัวโตยืนกอดอกรออยู่ก่อนแล้ว



" พี่แจบอมจะไม่ว่าพวกเราใช่ป่ะวะแจ็คสัน จินยองเมาเละแบบเนี้ย "


" ไม่รู้ว่ะ แต่ก็ห้ามมันไม่ได้นี่หว่า ล่อกระดกซะเป็นน้ำเปล่าเลยอ่ะ "



ยูคยอมถอนหายใจเบาๆก่อนจะค่อยๆเปิดประตูรถลงไปเมื่อรถจอดสนิท เขาโค้งตัวเล็กน้อยให้กับคนที่ยืนรออยู่ก่อนแล้วก่อนจะเปิดประตูรถอีกฝั่งเพื่อช่วยเอาตัวคนเมาออกมา




" ทำไมเมาขนาดนั้น ดื่มหนักเหรอ "



แจบอมเอ่ยถามพลางดันตัวยูคยอมให้หลบไปแล้วแทรกตัวไปอุ้มน้องชายของตนที่หลับตาพริ้มแต่ริมฝีปากเบะคว่ำเหมือนเด็กโดนขัดใจ



" เอ่อ... "


" พี่ไม่ดุหรอกน่า "


" ก็..ไม่รู้ว่าจินยองเป็นอะไรน่ะครับ ผมเห็นดื่มเอาๆห้ามก็ไม่ยอมฟังเลย "



ได้ยินแบบนั้นแจบอมก็พยักหน้าเบาๆก่อนจะหันไปมองคนขับรถที่ลดกระจกลงมาแล้วพูดขอโทษเขาเป็นการใหญ่ที่ไม่ดูแลจินยองให้ดีกว่านี้ แน่นอนว่าแจบอมไม่คิดโกรธเคืองอะไรพวกน้องๆเลยเพราะเขาคิดว่าตัวเองรู้สาเหตุที่จินยองดื่มหนักแบบนี้





ร่างสูงใช้เท้าเตะประตูห้องนอนของตนให้เปิดออกก่อนจะเดินเข้าไปวางร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขนลงนอนบนเตียงให้เรียบร้อย คิดๆแล้วมันก็น่าจับน้องชายมาตีแรงๆสักทีเพราะพอเห็นว่าแม่ไม่อยู่บ้านหน่อยก็เมากลับมาแบบนี้ แต่ในขณะที่เขาเดินไปปิดประตูห้องนอนนั้นคนเมาก็ลุกขึ้นมาปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองจนร่างกายนั้นเปลือยเปล่า แจบอมยืนมองนิ่งๆก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อสายตาที่ดูเย้ายวนนั้นมองมาที่เขาก่อนที่เจ้าตัวจะเอนหลังลงนอนราบกับผืนเตียง เรียวขาทั้งสองข้างนั้นค่อยๆแยกออกจากกันเผยให้เห็นช่องทางสีอ่อนที่ขมิบรัดอากาศ



" เป็นอะไร ทำขนาดนี้ทำไม "



จินยองเบะปากเมื่อได้ยินคำถามแบบนั้น เขาก็แค่น้อยใจที่แจบอมบอกว่าเขาไม่หล่อเลยสักนิด ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมาพูดเหมือนกับว่าเขาขี้เหร่นักหนา งอแงไปหมดเอามาเป็นอารมณ์จนถึงขั้นดื่มเหล้าเมามาย มันไร้สาระจินยองรู้ดี...แต่ก็แค่น้อยใจและไม่หวังให้แจบอมมาเข้าใจอะไรด้วย นอกจากเลิกย้ำว่าเขาไม่หล่อสักที



แจบอมถอนหายใจเบาๆยืนมองจินยองที่เริ่มจะลูบมือปัดป่ายไปทั่วร่างกายตัวเองด้วยสีหน้าที่ดูก็รู้ว่าตั้งใจจะยั่วกัน เขาถอดเสื้อยืดที่สวมใส่นั่นโยนทิ้งไปก่อนที่จะถอดกางเกงขาสั้นนั้นออกไปด้วย เดินเข้าไปหาคนที่กำลังจะสอดเรียวนิ้วเข้าไปในช่องทางที่เขาหวงแหนก่อนจะจับยึดข้อมือเล็กๆนั่นไว้



" จะทำเองทำไม "


" ทำไมล่ะ ไม่ต้องมายุ่งกับคนขี้เหร่แบบผมหรอกนะ "


" นี่ยังไม่หายงอนเรื่องนี้อีกเหรอ "


" ก็พี่ว่าผมขี้เหร่ "


" พี่พูดแบบนั้นจริงๆเหรอจินยอง "


" เปล่า...แต่ก็พูดอ้อมๆอ่ะ เอาแต่บอกว่าผมไม่หล่ออยู่ได้ ผมคงขี้เหร่มากสินะในสายตาพี่อ่ะ "



พูดไปก็น้อยใจหนักกว่าเดิม แต่สัมผัสหวานล้ำจากจูบนั้นก็ดึงความสนใจของคนเมาขี้น้อยใจไปได้ทันที ริมฝีปากที่บดเบียดลงมา ปลายลิ้นที่แตะเบาๆที่กลีบปากล่างก่อนจะค่อยๆสอดเข้าในโพรงปาก กวาดต้อนเอาความหวานที่เจือรสชาติและกลิ่นของแอลกอฮอล์ จินยองสอดแขนคล้องคอแจบอมเอาไว้ยอมรับจูบนั้นอย่างไม่คิดจะปฏิเสธกันราวกับลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้กำลังไม่พอใจเรื่องอะไรอยู่



" จำไว้นะ น้องชายของพี่ไม่เคยขี้เหร่เลยสักครั้ง "


" น้องชาย...ยังจะใช้คำนี้ได้อีกเหรอ "



แจบอมหัวเราะเบาๆก่อนจะค่อยๆสอดแท่งเนื้อที่ร้อนรุ่มนั่นเข้าไปในกายของจินยองที่ตอนนี้บีบแขนเขาเอาไว้แน่น มันก็จริงอย่างที่จินยองถามมา...ไอ้คำว่าพี่น้องนั่นมันยังใช้ได้อีกหรือ มันจะมีพี่น้องที่ไหนมาทำอะไรแบบนี้กัน แต่ถึงอย่างนั้นความจริงมันก็คือความจริง...พี่น้องก็ยังคงเป็นพี่น้องอยู่ดี



แม้ว่าตอนนี้คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายจะโหมกระแทกกายใส่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชายไม่ยั้งแรง แม้ว่าตอนนี้คนที่เป็นน้องชายจะร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างของคนเป็นพี่ชายไม่ยอมหยุด แม้ว่าตอนนี้ทั้งสองจะบอกรักกันในขณะที่กำลังขยับกายไปด้วยกันก็ตาม...




" จินยอง "


" อื้อ "


" นายน่ะ...ไม่หล่อหรอก "



จินยองลืมตาขึ้นจ้องหน้าแจบอมทันที สองมือทุบลงที่ท่อนแขนของคนที่ใช้สองมือยกสะโพกเขาขึ้นแล้วกระหน่ำกระแทกกายเข้ามาแบบไม่ผ่อนแรง ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมาย้ำกันตอนที่กำลังมีความสุขด้วยกันแบบนี้ด้วย แต่รู้สึกไม่พอใจได้ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างเพราะประโยคถัดมาที่ถูกกระซิบข้างหู



" แต่จินยองของพี่อ่ะน่ารัก...โคตรน่ารักเลยไม่รู้ตัวเหรอ น่ารักจนไม่อยากให้ใครเห็นแล้วเนี่ย น่ารักจนอยากเก็บไว้ดูคนเดียวแล้ว "



คำพูดที่ฟังดูหวานซึ้งขัดกับการกระทำที่รุนแรง แจบอมโน้มหน้าลงมอบจูบที่เร่าร้อนก่อนที่จะผละออกเพราะอีกฝ่ายดันอกเขาเบาๆ เขามองสบตากับดวงตากลมที่ฉ่ำน้ำ...อยากจะกระแทกแรงๆให้แหลกคามือเสียจริง



" น่ารักแล้วรักป่ะ "


" หึ อยากจะเอาทุกวันขนาดนี้ยังจะมาถามอีก "


" บ้า!! พี่พูดอะไรเนี่ย..อ๊า!! เบาๆหน่อย "


" ขอโทษนะจินยอง พี่ไม่ไหวแล้วว่ะ "



จบคำนั้นเสียงร้องครวญครางปานจะขาดใจก็ดังขึ้นทันทีพร้อมกับเสียงเนื้อกระทบกันที่ดังพอกัน ร่างบางโยกคลอนตามแรงกระแทกกระทั้นที่ถูกส่งมา และไม่นานนักความปรารถนาทั้งหมดก็ถูกฉีดพ่นเข้ามาในกายของเขาและไหลออกมาทันทีเมื่ออีกคนถอนกายออก เขาอยากจะหลับเต็มทนเพราะเหนื่อยล้าเหลือเกินกับสิ่งที่เจอ...แต่เชื่อเถอะว่าเขายังไม่ได้พักแน่นอน




" อ..อื้อ พี่แจบอม "


จินยองพูดขึ้นพร้อมกับฝ่ามือที่ดันหน้าท้องของคนที่สอดความใหญ่โตนั่นเข้ามาในกายของเขาอีกครั้ง แต่ข้อมือของเขากลับถูกรวบเอาไว้ก่อนที่จูบแสนหวานนั่นจะกลืนกินสติของเขาไปอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะถูกแจบอมผู้ที่เป็นพี่ชายดึงลงไปสู่ความผิดบาปที่ไม่มีใครสนใจอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง...



" พี่รักนายนะจินยอง "


























บางครั้งมันก็ดูจะเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับคนที่เป็นพี่ชายอย่างอิมแจบอม ความหึงหวงที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น...แต่กลับห้ามไม่ได้ ฝ่ามือกำโทรศัพท์แน่นเมื่อได้เห็นรูปถ่ายที่มาร์คส่งมาให้ดูว่าบังเอิญไปเจอมาในอินสตราแกรมของใครสักคนที่เขาไม่ได้ใส่ใจมากนักเพราะหูมันอื้อใจมันเต้นแรงตั้งแต่ได้เห็นรูปภาพนั้นแล้ว...รูปที่น้องชายของเขาถ่ายคู่กับผู้ชายคนนึงที่รู้มาจากแบมว่าชื่อชยอนู เป็นใครเขาไม่รู้แต่กับการที่เพื่อนทั้งสองไปสืบมาให้แล้วบอกว่าพักนี้ผู้ชายคนนี้สนิทกับจินยองมันก็ทำเอาเขาหงุดหงิดแทบบ้าเพราะมันสอดคล้องกับที่พักนี้จินยองไม่ให้เขาไปรับที่หน้าคณะเลย จินยองบอกเขาแค่ว่าอยากไปไหนกับเพื่อนๆบ้างซึ่งตรงนี้เขาเองก็เข้าใจและไม่ได้ว่าอะไรเลย...แต่ใครจะไปคิดว่าจะมีผู้ชายคนอื่นเพิ่มเข้าไปในกลุ่มด้วย กับการที่ดูจะสนิทกันแบบนั้นแจบอมจะไว้ใจได้อย่างไรว่าจินยองจะไม่โดนจีบ




" แม่งเอ๊ย!!! ทำไมโทรไม่ติดวะ!!! ข้อความก็ไม่อ่าน!!! "



บ่นไปพลางรัวนิ้วพิมพ์ข้อความหาผู้เป็นน้องชายที่ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้เลย แต่ไม่นานนักข้อความของเขาก็ถูกเปิดอ่านพร้อมกับการขอโทษแล้วบอกกับเขาว่าเมื่อครู่ดูหนังอยู่เลยต้องปิดโทรศัพท์ แต่นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้แจบอมโมโหได้เท่ากับการที่จินยองบอกกับเขาว่าผู้ชายที่ชื่อชยอนูนั้นเป็นคนออกเงินค่าตั๋วหนังให้กับจินยองและเพื่อนอีกสามคน แจบอมไม่รอช้าเลยที่จะบอกให้จินยองรออยู่ตรงนั้นก่อนจะคว้ากุญแจรถออกไป



แจบอมคงยอมไม่ได้หากว่าในตอนนี้จะมีผู้ชายที่ไหนมายุ่งกับจินยอง...


ไม่สนใจแล้วว่าตนจะเป็นแค่พี่ชายเพราะความรักและหวงแหนนั้นมีมากกว่า...



















" กลับไปก่อนเลยก็ได้นะ "



จินยองที่รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีนักเอ่ยบอกกับเพื่อนทั้งสามคนและรุ่นพี่อีกหนึ่งคนที่ตอนนี้มายืนอยู่ที่หน้าห้างสรรพสินค้าเป็นเพื่อนหลังจากที่แจบอมบอกให้เขารอเพราะจะมารับกลับบ้านเอง จินยองไม่รู้ว่าทำไมน้ำเสียงของแจบอมถึงดูไม่ค่อยพอใจเขานักหนาทั้งที่เขาแค่มาดูหนังเท่านั้นเอง




" เป็นอะไรน่ะจินยอง พี่ชายดุเหรอสีหน้าไม่ดีเลย "



ชยอนูรุ่นพี่ที่เรียนอยู่คณะเดียวกันกับจินยองและเพื่อนทั้งสามเอ่ยถามก่อนจะยกมือขึ้นลูบศีรษะจินยองอย่างเอ็นดู จินยองทำเพียงแต่ส่ายหน้าเบาๆแล้วยิ้มให้กับเขา



" ก็ดีแล้ว ถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยก็บอกเนอะ ถือว่าแลกเปลี่ยนกันก็ได้ "




" เฮ้ย!!! แย่แล้วจินยอง!!! "



แจ็คสัน ยองแจ และยูคยอมพูดขึ้นพร้อมกันเมื่อเห็นรถยนต์สีดำที่ขับเข้ามาจอดเทียบริมทางเท้าที่พวกเขายืนอยู่ก่อนที่คนที่คุ้นหน้าคุ้นตานั้นจะเปิดประตูรถลงมาแล้วเดินอาดๆเข้ามาหาชยอนูที่ยังยืนลูบผมจินยองอยู่อย่างไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง


จนกระทั่ง...



ผลั่ก!!!


" มาทำเหี้ยอะไรกับน้องกูเนี่ย!! "



แจบอมตวาดลั่นก่อนจะถูกจินยองกับแจ็คสันเข้ามาดึงตัวไว้ไม่ให้ไปต่อยชยอนูซ้ำสอง ชยอนูที่จู่ๆก็ถูกต่อยได้แต่ทำหน้างงโดยมียูคยอมกับยองแจพยุงตัวให้ลุกขึ้นยืน



" พี่แจบอม!! พี่หยุดก่อนสิ "


" ทำไม? ห่วงมันมากเหรอไอ้ปลาทูเนี่ย!! มันมาจีบนานหรือยังแล้วทำไมไม่บอกพี่วะจินยอง แล้วทำไมไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วไม่บอกพี่เลยอ่ะ ทำไมวะ!!? หรือชอบมันมากใช่ป่ะ? ถูกใจมันมากเหรอมันมาจีบแบบไหนถึงได้ยอมไปกับมันแบบนี้อ่ะ แล้วอะไรมาเลี้ยงหนังนี่รวยมากหรือไงวะ!!? "




" โอ๊ยยยยย!!! นี่พ่อรูปหล่อช่วยหยุดพล่ามแล้วฟังเจ้ก่อนค่ะ!!! "



เสียงแปร่งๆของใครบางคนทำเอาแจบอมที่ยืนหัวร้อนโวยวายเมื่อครู่ต้องเงียบเสียงลงแล้วมองคนที่ยืนเท้าเอวจีบปากจีบคอพูดอย่างไม่อยากเชื่อสายตา อีกฝ่ายพอเห็นว่าเขายอมเงียบแล้วก็ถอนหายใจก่อนจะเริ่มพูดต่อ



" อย่างแรกนะคะ เจ้ชื่อชยอนูค่ะไม่ใช่ปลาทู หรืออยากกินเจ้มากเลยเรียกแบบนั้นเหรอคะ อย่างที่สองเจ้ไม่ได้จะจีบหรืออยากจะลากน้องจินยองไปกินนะคะโปรดรู้เอาไว้!!! เจ้ไม่เบี้ยนค่ะ!!! "



แจบอมเลิกคิ้วก่อนจะหันไปมองจินยองที่กลอกตาพยักหน้าให้เขาแล้วจึงหันไปตั้งคำถามกับเจ้ชยอนูที่ยังยืนเท้าเอวอยู่



" แล้วสนิทกันตอนไหน "


" คืองี้นะ เจ้อ่ะไม่มีคนเป็นนายแบบให้เพราะนายแบบคนเก่านางไปติดผู้ติดสัตว์อะไรก็ไม่รู้ พอดีเจ้มาเจอน้องจินยองแล้วก็แบบเอ๊ะๆๆถูกใจงี้ก็เลยทาบทามให้มาถ่ายงานด้วยกันก็แค่นั้นเอง ที่พามาเลี้ยงหนังนี่ก็ถือว่าเป็นค่าตอบแทนน้ำใจน้องจินยองเขาด้วยค่ะ "


" ...ไม่ได้แอ๊บแล้วอยากมาหลอกล่ออะไรจินยองแน่นะ "


" ไปถามใครก็ได้ค่ะ อย่างน้องจินยองนี่ไม่ใช่สเป็คเจ้หรอก...แต่ถ้ากับนายนี่ได้เลยนะ สนใจมีเมียหุ่นแน่นป่ะคะ "


" ถ้ามึงแตะตัวกูแม้แต่ปลายเล็บกูต่อยมึงหน้าแหกแน่ "



ได้ยินแบบนั้นชยอนูที่ตั้งท่าจะเข้าไปสัมผัสหนุ่มหล่อดุดันตามสเป็คก็ต้องชะงักไปแล้วส่งยิ้มหวานให้แทน แจบอมที่พอรู้ตัวว่าหน้าแตกเพราะเข้าใจผิดแบบนั้นก็รีบดึงมือจินยองไปขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว



" ยองแจ นั่นพี่ชายจินยองเหรอ "


" อื้ม คนนั้นแหละ "


" หล่อมากกกกก น่ากินมากกกก "



ยองแจหัวเราะเบาๆก่อนจะหันไปกระซิบคุยกับเพื่อนอีกสองคนโดยมีชยอนูยืนทำหน้าเพ้อฝันและพูดจาเพ้อเจ้ออยู่ข้างๆด้วย




" พวกแกว่าจะทะเลาะกันป่ะ "


" ไม่รู้ดิ แต่เมื่อกี๊พี่แจบอมดูน่ากลัวมากนะ "


" ใช่ๆแจ็คสันพูดถูก น่ากลัวมากอ่ะ "



สุดท้ายทั้งสามก็ได้แต่ถอนหายใจพร้อมกันแล้วพากันภาวนาขอให้จินยองปลอดภัยดี...

























" พี่แจบอม "



จินยองถอนหายใจเบาๆเพราะตลอดทางแจบอมเอาแต่เงียบ เขารู้ว่าแจบอมคงไม่พอใจที่เขาไปสนิทกับชยอนูแล้วไม่ได้บอกให้รู้ปล่อยให้เข้าใจผิดจนเกิดเรื่องแบบนี้ ทันทีที่รถจอดสนิทที่พื้นที่ว่างในรั้วบ้านจินยองก็ขยับตัวไปนั่งคร่อมตักแจบอมไว้ทันที



" จะทำอะไร "


" อย่าทำเสียงดุแบบนั้นสิ ผมขอโทษนะที่ไม่ได้บอกก่อนจนทำให้พี่แจบอมเข้าใจผิดอ่ะ "


" ช่างแม่ง ลงไปดิไม่เข้าบ้านรึไง "


" ไม่เอาอ่ะ ถ้าพี่แจบอมยังโกรธอยู่ "


" แล้วยังไง? จะทำอะไร? "



แจบอมเอ่ยถามเสียงเรียบก่อนที่จะถูกจินยองเอื้อมมือไปปรับเบาะของเขาให้เอนลงเล็กน้อย มือนุ่มๆนั่นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาอย่างใจเย็นและใช้สายตาออดอ้อนมองกันคงหวังให้เขาใจอ่อน



" จะเอาตรงนี้? "


" ไม่เห็นต้องพูดตรงแบบนั้นเลยนี่นา "


" บ้าไปแล้ว จินยองนี่พี่ยังไม่ได้ปิดประตูรั้วเลยนะ "


" ไม่มีใครเห็นหรอกน่า ฟิล์มรถก็ออกจะมืดอ่ะ "



พูดจบก็โน้มหน้าลงจูบเบาๆที่อกแกร่ง ฝ่ามือลูบคลึงส่วนอ่อนไหวที่ยังอ่อนนิ่มผ่านกางเกงยีนส์สีเข้มที่แจบอมสวมใส่ แจบอมยกยิ้มมุมปากเอนหลังพิงเบาะมองดูจินยองที่ตอนนี้กำลังใช้ปลายลิ้นลากไล้ตามแผ่นอกของเขาก่อนที่จะขยับขึ้นมากดจูบเบาๆที่สันกราม เขาปล่อยให้จินยองทำไปแบบนั้นด้วยท่าทีที่ดูเหมือนจะไม่สนใจมากนักจนถูกเรียกร้องความสนใจด้วยการจูบ เขาจูบตอบกลับไปอย่างอ้อยอิ่ง เริ่มหายใจหนักขึ้นเมื่อจินยองปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงของเขาออกไป ความนุ่มนิ่มของฝ่ามือที่โอบอุ้มความแข็งขืนนั้นไว้แล้วรูดรั้งเนิบช้า แจบอมจัดการถอดกางเกงของจินยองออกไปบ้างโดยที่อีกฝ่ายก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี




" คิดจะง้อแบบนี้จริงเหรอจินยอง "


" อื้อ "


" งั้นก็เหนื่อยหน่อยนะ "



จินยองอมยิ้มก่อนจะค่อยกดกายลงช้าๆ กัดปากแน่นเมื่อความใหญ่โตแข็งขืนแทรกเข้ามาในกายและผ่อนลมหายใจออกมาเมื่อเข้าได้จนสุด มองสบตากับพี่ชายที่ทำเพียงวางมือไว้ที่สะโพกของเขานิ่งๆแล้วมองเขาด้วยแววตาที่ดูเจ้าเล่ห์




" อยากง้อนักก็ทำเองแล้วกัน "



ได้ยินแบบนั้นจินยองก็ทำหน้าง้ำหน้างอแต่ก็ยอมขยับกายแต่โดยดี เขาไม่กล้ามองหน้าแจบอมเลยด้วยซ้ำแม้ว่าตอนนี้จะมืดขนาดไหน ได้แต่ก้มหน้าลงมองฝ่ามือของอีกฝ่ายที่กอบกุมส่วนนั้นของเขาเอาไว้...แจบอมแสดงความใจร้ายโดยการใช้ปลายนิ้วโป้งคลึงเบาๆที่รอยแยกเล็กๆสลับการกดน้ำหนักลงราวกับว่าจะแกล้งกัน



" พ..พี่แจบอม "


" อะไรล่ะ "


" อย่าแกล้ง อื้อ "



แจบอมขบกรามแน่นมองใบหน้าที่เหยเกไปเมื่อถูกเขาแกล้งแต่ก็ไม่ได้หยุดกระแทกกายลงมา สัมผัสเสียดเสียวที่ได้รับตอนนี้มันก็ดี...แต่มันไม่สะใจเขา




" อ..อ๊ะ!! อ๊า..พี่แจบอม "



สุดท้ายความอดทนที่อยากจะแกล้งน้องชายตัวเองก็พังลง สองมือบีบแก้มก้นที่เต็มมือนั้นไว้แล้วแยกมันออกจากกัน สวนสะโพกเข้าใส่จนคนน้องร้องครางไม่เป็นภาษา ตวัดลิ้นเลียยอดอกสีอ่อนที่รัดตึงชูชันอยู่ตรงหน้า เสียงหอบหายใจดังปนไปกับเสียงครางหวานๆของคนที่เชิดหน้าหลับตาแน่น สองมือบีบไหล่เขาไว้แน่นร้องออกมาเสียงดังจนเขาต้องจูบปิดปากเพราะกลัวว่ามันจะดังเกินไป...แต่นั่นก็ทำให้เสียงเนื้อกระทบกันมันดังชัดกว่าเดิม



" จินยอง..ต่อไปนี้มีอะไรต้องบอกพี่นะ "


" อ..อื้อ อ๊า..พี่แจบอมผม..ไม่..อ๊า..ไม่ไหว "



พูดจบก็ปลดปล่อยออกมาทันทีโดยไม่รอคนเป็นพี่ชาย แจบอมปาดเอาน้ำขาวขุ่นนั้นก่อนจะสอดนิ้วที่เปรอะเข้าไปในปากของจินยอง ปาดน้ำรักนั้นไว้จนเลอะมุมปาก...ดูแล้วมันยิ่งน่าขย้ำเข้าไปใหญ่





" อย่าเพิ่งเป็นของใครเลยนะจินยอง เป็นของพี่แค่คนเดียวเถอะนะ "



น้ำเสียงกระเส่าที่กระซิบข้างหูโดยที่ตัวคนพูดนั้นไม่ได้หยุดสวนสะโพกเข้าใส่ จินยองกดจูบลงที่ซอกคอของแจบอมดูดดึงผิวเนื้ออย่างแรงเมื่อแจบอมเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มที่จะจุกแต่ก็ไม่อยากขัดใจ จนกระทั่งแจบอมกระแทกกายหนักเน้นอยู่สองสามครั้งพร้อมกับการหอบหายใจและซี๊ดปาก ความอุ่นที่ถูกฉีดพ่นเข้ามาในกายทำให้จินยองรู้ว่าตอนนี้แจบอมเสร็จสมแล้ว



แจบอมเงยหน้าขึ้นรับจูบจากน้องชายทั้งที่ยังหอบหายใจ สองมือบีบขยำแก้มก้นนั้นเบาๆโดยที่จินยองเองก็ขยับกายเบาๆตามไปด้วย ไม่นานนักก็ถอนจูบออกแต่ดวงตากลมใสนั้นยังคงมองเขาอย่างสื่อความหมาย




" รักพี่แจบอมนะ รักมากเลย "



จินยองว่าก่อนจะโน้มลงกอดคนเป็นพี่ชายเอาไว้ด้วยหัวใจที่ยังเต้นรัว เขาไม่รู้ว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันจะเป็นอย่างไรต่อไป...และจินยองเองก็ไม่ได้อยากรับรู้อะไรไปมากกว่าความสุขที่ได้รับมันอยู่ทุกวัน



แน่นอนว่าแจบอมก็คิดแบบนั้น...ทำไมจะไม่รู้ในความผิดบาปที่ไม่ควรเกิดขึ้น ต่างฝ่ายต่างก็รู้แต่ก็ยอมเพื่อแลกกับความรักที่มีให้กัน วันข้างหน้าอนาคตที่ยังไม่เกิดและยากจะคาดเดา..ทั้งสองยังไม่อยากสนใจมัน



" พี่ก็รักจินยอง รักที่สุด "


" ถ้าอย่างนั้น...คืนนี้รักผมทั้งคืนเลยได้ไหมอ่า "


" หึ เด็กหื่น "


" จะไม่ทำเหรอ... "


" เดี๋ยวก็รู้ "



จินยองยิ้มกว้างเมื่อเห็นสีหน้าเจ้าเล่ห์ของแจบอม แบบนี้มันก็เดาได้ไม่ยากว่าคำขอของเขาจะไม่ถูกปฏิเสธแน่นอน อีกไม่กี่วันแม่ของพวกเขาก็จะกลับมาแล้ว...เพราะฉะนั้นพวกเขาก็อยากจะขอใช้ช่วงเวลาที่เหลือให้คุ้มค่าที่สุด




มันผิดต่อศีลธรรมอันดี มันบาปเกินกว่าที่ใครจะคิดว่าพวกเขาจะกล้าทำมัน...แต่แล้วยังไงล่ะ ในเมื่อตอนนี้ทั้งสองต่างก็ลุ่มหลงไปกับความผิดบาปที่หวานหอมและเย้ายวน สักวันคงจะต้องมีใครสักคนลืมตาขึ้นมาและพาตัวเองออกมาจากความผิดบาปที่ว่านี้ แต่กว่าจะถึงวันนั้นใครจะไปรู้ได้ว่าพวกเขาจะดำดิ่งลงไปลึกขนาดไหน



แต่เชื่อเถอะ...ทั้งอิมแจบอมและอิมจินยองไม่มีใครอยากหลุดพ้นจากบ่วงนี้แน่นอน




























" มึง...เห็นเหมือนที่กูเห็นใช่ป่ะแบม "



มาร์คเอ่ยถามคนที่ขับบิ๊กไบค์โต้ลมอยู่ด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างสั่นเครือ ยังคงตกใจกับภาพที่ได้เห็นจนรู้สึกไม่อยากเชื่อสายตา



เพราะเป็นห่วงเพื่อนกลัวว่าจะใจร้อนแล้วพาลทะเลาะกับน้องชายเลยชวนแบมออกไปหาที่บ้านด้วยกัน แต่ใครจะไปคิดว่าจะได้เห็นฉากเด็ดรถโยกสั่นคลอนอย่างกับรถผีสิงแบบนั้น...ไหนจะเงาแบบเลือนๆเบลอๆแต่พอมองออกว่ามีใครสองคนกำลังแสดงบทรักกันอย่างเร่าร้อน แถมยังแทบช็อคตายตรงนั้นเมื่อเห็นว่าสองคนที่เดินลงมาจากรถคือสองพี่น้องที่พวกเขารู้จักเป็นอย่างดีและคอยยุให้ได้กันอยู่บ่อยครั้ง...



" เชี่ย...แม่งได้กันแล้วอ่ะ กูว่าแม่งไม่ใช่ครั้งแรกด้วย "


" ทำไมวะ "


" มึงไม่เห็นเหรอมาร์ค น้องจินยองแม่งเดินยิ้มหน้าบานเข้าบ้านไปแบบนั้นอ่ะ ถ้าครั้งแรกมันไม่น่าสตรองขนาดนั้นป่ะวะ "



แบมว่าก่อนจะจอดรถเมื่อไฟจราจรเปลี่ยนสีแดง นึกภาพนั้นแล้วก็ตกใจไม่หายไม่คิดว่าเพื่อนตัวเองจะฉีกทึ้งม่านศีลธรรมนั่นอย่างรุนแรงจนรถโยกแบบนั้น แต่แล้วก็ชะงักไปเมื่อจู่ๆคนที่ซ้อนท้ายก็สอดแขนมากอดเอวเขาเอาไว้



" คู่นั้นมันได้กันแล้วนะแบม แล้วเราอ่ะ "


" อะไรมึง "


" เมื่อไหร่เราจะได้กันบ้าง กูรอจนน้ำจะแห้งแล้วนะเว้ย "



แบมหันไปมองมาร์คที่เกยคางไว้กับไหล่เขาแล้วฉีกยิ้มหวานทำตาปริบก่อนจะถอนหายใจแล้วแกะมือที่กอดเอวเขาออก สองมือเตรียมบิดคันเร่งเมื่อไฟจราจรใกล้เปลี่ยนเป็นสีเขียวก่อนจะออกตัวอย่างแรงแล้วบิดคันเร่งสุดแรงเกิดโดยไม่หันไปสนใจใยดีมาร์คที่นั่งจุมปุ๊กอยู่กลางถนน...



" ไอ้แบม!! ไอ้เชี่ยแบ๊มมมม!!! กูตกรถว้อย!!! กรี๊ดดดดดดดด!!! "











.......FIN.......


จบงี้แหละ 5555
กลับไปเม้นที่ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1598459&chapter=19 ให้ด้วยนะคะ หรือจะสกรีมแท็กด้วยก็ได้เราไม่ว่า ฮาาาา



รักนะโป๊ะๆ ❤❤









ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

- OS ของขวัญ [3P] -

พี่เดฟของลูกพีช - 33